วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

is2

บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง

การศึกษาในครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ศึกษาเอกสารโดยแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้
 1.ความปลอดภัย
 2.ความสำคัญของหมวกนิรภัย
 3.ประเภทหมวกนิรภัย
 4.อันตรายจากการสวมใส่หมวกนิรภัย
 5.ความเชื่อผิดๆของการสวมใส่หมวกนิรภัย
 6.ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย
 7.กฏหมายของผู้ขับขี่
 8.มาตราฐานหมวกนิรภัย

1.ความปลอดภัย
    1.1 หมวกนิรภัยรูปทรงปลอดภัย
    1.2 ขนาดของหมวกนิรภัย
    1.3 กฎหมายคุ้มครอง
    1.4 ความแข็งแรงของหมวกนิรภัย
    1.5 การป้องกันสิ่งต่างๆในระหว่างการขับขี่

2.ความสำคัญของหมวกนิรภัย
           2.1 ป้องกันสิ่งต่างๆระหว่างการขับขี่
               2.2 ลดแรงกระแทงต่างๆ
               2.3 ลดอาการบาดเจ็บจากการเกิดอุบัติเหตุ
               2.4 ทำให้มีกฎหมายคุ้มครองเวลาสวมใส่
              
                                
3.ประเภทหมวกนิรภัย
           3.1 แบบปิดเต็มหน้า เปลือกหมวกมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมปิดด้านข้าง ด้านหลัง ขากรรไกรและคาง
           3.2 แบบเต็มใบ เปลือกหมวกเป็นรูปทรงกลมปิดด้านข้าง และด้านหลัง เสมอแนวขากรรไกร และต้นคอด้านหลัง ด้านหน้าเปิดเหนือคิ้วลงมาตลอดถึงปลายคาง
      3.3แบบครึ่งใบ เปลือกหมวกเป็นรูปครึ่งวงกลมปิดด้านข้าง เสมอระดับหู
หมายเหตุ กรณีหมวกกันน็อคมีกระบังลม กระบังลมต้องทำจากวัสดุโปร่งใสและไม่มีสี

4.อันตรายจากการสวมใส่หมวกนิรภัย
      4.1 สิ่งสกปรกจากหมวกนิรภัย
              4.2 กลิ่นเหม็นๆในหมวกนิรภัย
             4.3 การต้านลมในระหว่างการขับขี่
             4.4 ความทึบแสง
             4.5 ความถนัดในการขับขี่

5.ความเชื่อผิดๆของการสวมใส่หมวกนิรภัย
     5.1 เชื่อว่าไปไกล้ๆแค่นี้คงไม่เป็นไร
       5.2 ไม่ได้ขับออกถนนใหญ่
       5.3 เร่งรีบ หยิบไม่ทัน
       5.4 อึดอัด ร้อน
       5.5 ผมเสียทรง
       5.6 ไม่มีที่เก็บ พกพาลำบาก
       5.7 บริเวณที่ไปไม่มีตำรวจ
       5.8 ไม่มีหมวกนิรภัย
       5.9 โอกาสการเกิดอุบัติเหตุน้อย
       5.10 คนที่ซ้อนท้ายมานั้นก้ไม่ได้สวมใส่

        


              
4.1   ไม่ควรหยิบหนังสือพิมพ์ วารสาร มาอ่านครั้งละหลายเล่ม จะทำให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสได้อ่าน
4.2       เก็บเก้าอี้ทุกครั้ง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย
4.3       ถ้าต้องการยืมหนังสือ ให้ติดต่อยืมที่บรรณารักษ์
4.4       ให้ตรวจสิ่งของก่อนออกจากห้องสมุดทุกครั้ง
4.5       ไม่เล่นเครื่องนับจำนวนที่บริเวณทางเข้าออก-ออก จะทำให้เครื่องชำรุดเสียหาย
4.6       หนังสือ หรือวัสดุใดๆ ที่ยืมออกจากห้องสมุด ควรดูแลรักษาให้ดีเพื่อยืดอายุการใช้งาน
4.7       ให้คืนหนังสือตามกำหนดเวลา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ใช้หนังสือ

5. ระเบียบการยืม - คืน
1.มีบัตรสมาชิกห้องสมุด
ขั้นตอนการทำบัตร
                   1.1 นำรูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป
                   1.2 เงินค่าทำบัตร 3 บาท
1.3 ติดต่อบรรณารักษ์ (นักเรียนใหม่ ครูบรรณารักษ์จะบริการในห้องเรียนเอง)
2. นำหนังสือที่ต้องการยืม ส่งให้เจ้าหน้าที่ห้องสมุดที่ยืนอยู่ประจำเคาเตอร์
3. ใช้บัตรสมาชิกของผู้ยืมเท่านั้น
4. สิทธิการยืมคืน
                   4.1 ยืมหนังสือ/วีดีโอ/เทป ได้ครั้งละไม่เกิน 5 เล่ม ภายในกำหนด 7 วัน
                   4.2 หนังสืออ้างอิงไม่อนุญาตให้ยืม
                   4.3 การบริการให้ยืมเฉพาะช่วงเช้า-พักกลางวันและหลังเรียนคาบสุดท้าย ไม่บริการให้ยืมระหว่างเวลาเรียน
5. ถ้าส่งหนังสือช้าเกินกำหนด ปรับวันละ 1 บาทต่อเล่ม(นับรวมวันหยุด)แต่ถ้าเป็นหนังสือจองปรับวันละ 5 บาท
6. หากทำหนังสือหายหรือมีปัญหาการใช้ห้องสมุดให้ติดต่อบรรณารักษ์


is 1



 
บทที่ 1
บทนำ

1.1 ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหา
                 หมวกนิรภัยเป็นอุปกรณ์ในการขับขี่และการป้องกันภัยหรืออุบัติเหตุทางท้องถนน มีกฏหมายบังคับและมีการรณรงค์อยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการหาสาเหตุผลลดการสูญเสียเราจึงต้องการหาข้อมูลหาเหตุผลที่เป็นสาเหตุทำให้นักเรียนหรือวัยรุ่นไม่นิยมสวมใส่หมวกนิรภัย
             โดยส่วนใหญ่เมืองไทยเรานั้นมักจะเดินทางด้วยจักยานยนต์เป็นส่วนมาก โดยคนไทยใช้
จักรยานยนต์มากที่สุดเป็นอันดับ 8 ของโลก ราว 17 ล้านคัน ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเฉลี่ยวันละ 30 คน ร้อยละ 70 - 80 เกิดจากขับขี่และซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ เฉลี่ยผู้เสียชีวิตจากการขับขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ อยู่ที่ประมาณวันละ 24 คน หรือในแต่ละชั่วโมง มีผู้เสียชีวิต 1 คนและในทุก 2 ชั่วโมงจะมีผู้พิการเพิ่มขึ้น 1 คน การสวมหมวกนิรภัยจึงเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาของการสูญเสียทรัพย์สินและชีวิตได้ เพียงประชากรส่วนใหญ่ไม่นิยมการสวมใส่หมวกนิรภัยอาจมาจากหลายสาเหตุที่ทำให้ไม่สวมใส่หมวกนิรภัยจึงเป็นที่มาของการเกิดอุบัติเหตุ โดยการมีความคิดที่ไม่ถูกต้องจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ความเชื่อผิดที่เป็นสาเหตุไม่สวมหมวกนิรภัย
1.ความเชื่อ ขี่มอเตอร์ไซค์ไปใกล้ๆ แค่นี้เอง เป็น ความเชื่ออันดับแรก
2.ความเชื่อ ไม่ได้ขับขี่รถออกถนนใหญ่ หมวกไม่ต้องใส่ก็ได้
3.ความเชื่อ เร่งรีบ ก็เลย เอาหมวกมาใส่ไม่ทัน
3.ความเชื่อ ร้อนอึดอัด สวมใส่แล้วไม่สบาย สกปรก
4.กลัวผมเสียทรง
5.ไม่มีที่เก็บ พกพาลำบาก กลัวหาย
6.บริเวณที่จะขี่ไปไม่มีตำรวจ
8.ไม่มีหมวกนิรภัย
9.ความเชื่อ คิดว่าโอกาสเกิดอุบัติเหตุมีน้อย
10.ความเชื่อ บุคคลที่นั่งมาด้วยก็ไม่ได้สวม

    นี่อาจเป็นสาเหตุที่ที่ทำให้ไม่สวมใส่หมวกนิรภัยและทำให้เกิดอุบัติเหตุ และความสูญเสีย จึงเป็นแนวทางในการ หาสาเหตุและการป้องกัน เพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียต่างๆ โดยวัยรุ่นส่วนใหญ่นั้นอาจมีเหตุผลส่วนตัวในการไม่สวมใส่หมวกนิรภัยจึงต้องแก้ขปัญหาเพื่อให้มีการสวมหมวกนิรภัยกันมากขึ้น


1.2 วัตถุประสงค์การของการศึกษา

        1.   เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับนิสิตได้ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรโดยเคร่งครัด
2.  เพื่อสร้างความร่วมมือและความรับผิดชอบด้านการลดอุบัติเหตุต่างๆ 
3.  เพื่อให้มีวินัยจาจร โดยการสวมหมวกนิรภัย คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ขับขี่ย้อนศร
     
1.3 สมมุติฐานของการศึกษา
      การสวมใส่หมวกนิรภัยนั้นสามารถช่วยลดการสูญเสียในการเกิดอุบัติเหตุได้มากน้อยแค่ไหน

1.4 ขอบเขตของการศึกษา
1.4.1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา
    นักเรียนมัธยมตอนปรายใน โรงเรียน นวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา2

1.4.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา
    นักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 5-6 ที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา 2 จำนวน 20 คน

1.5 เนื้อหา
  1. ความปลอดภัย
  2.ความสำคัญของหมวกนิรภัย
  3.ประโยชน์ของหมวกนิรภัย
  4.ประเภทของหมวกนิรภัย
  5.ความสำคัญของหมวกนิรภัยแต่ล่ะประเภท
  6.อันตรายจากการไม่สวมใส่หมวกนิรภัย
  7.ความเชื่อผิดๆของหมวกนิรภัย
  8.ข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย
  9.กฎหมายของผู้ขับขี่
 10.มาตราฐานของหมวกนิรภัย
1.6 ระยะเวลาในการศึกษาค้นคว้า
     ภาคเรียนที่1และภาคเรียนที่2 ในปีการศึกษา2556

1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
    ได้ทราบข้อดีและข้อเสียของหมวกนิรภัยและได้รับรู้ในการใช้งานอย่างถูกวิธี เข้าใจว่าเพราะเหตุใดนักเรียนวันรุ่นถึงไม่ชอบสวมใส่หมวกนิรภัย

    หากได้รับทราบข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อดีข้อเสีย การใช้ง่านอย่างถูกวิธี ก้อาจจะช่วยลดการสูญเสียและการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างมาก