บทที่3
วิธีการดำเนินการศึกษา
ได้ทำการศึกษาการสวมหมวกนิรภัยซึ่งมีวิธีการดังนี้
ระเบียบวิธีที่ใช้ในการศึกษา
ในการศึกษาใช้รูปแบบการสำรวจ
สืบค้นข้อมูล จากหนังสืออินเทอร์เน็ต และการตอบแบบสอบถาม
ประชากรที่ใช้ในการศึกษา
1.ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการศึกาครั้งนี้เป็นนักเรียนมัธยมปลาย
โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา๒ ภาคเรียนที่1ปีการศึกษา 2556
2.กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่นักเรียนมัธยมปลายในโรงเรียนนวมินทราชินูทิศสตรีวิทยา๒
ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา2556 เป็นนักเรียนทั้งสิ้น 100
คนได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย จำนวน5ห้องเรียน
เพื่อตอบแบบสอบถามที่สร้างขึ้น
3.ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา
ระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษา ในภาคเรียนที่1ปีการศึกษา2556
วิธีการดำเนินการศึกษา
1.กำหนดเรื่องที่จะศึกษา
โดยสมาชิกทั้ง5คนประชุมร่วมกัน และร่วมกันคิดและวางแผน
ว่าจะศึกษาเรื่องใด
2.สำรวจปัญหาที่พบในโรงเรียน
ซึ่งมีทั้งปัญหาทั้งด้านผู้เรียน ผู้นสอน อาคาร สถานที่ ฯลฯ
3.เลือกเรื่องที่จะศึกษาโยเลือกเรื่องที่สมาชิกมีความสนใจมากที่สุด
เพื่อเป็นแรงจูงใจในการค้นหาคำตอบ
4.ศึกษาแนวคิดในการแก้ปัญหา(ในข้อนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้)ศึกษาเพียงเพื่อให้ความรู้
ความเข้าใจ ในเรื่องกระบวนการวิจัยเท่านั้น
5.ตั้งชื่อเรื่อง
6.สมาชิกทั้ง5คนของกลุ่ม พบครูผู้สอนเพื่อปรึกษารับฟังความคิดเห้นและวางแผน
ปรับปรุงแก้ไข
7.เขียนความสำคัญเพื่อเป็นที่มาของปัญหา
วัตถุประสงค์ สมมุติฐาน ขอบเขตการวิจัยและประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
8.สร้างเครื่องมือที่เป็นแบบสอบถาม
10ข้อ
9.นำเคื่องมือที่ปรับปรุงแล้วไปใช้กับกลุ่มตัวอย่าง
10.รวบรวมข้อมูล
11.วิเคราะห์ข้อมูล
12.สรุปการศึกษา
ขั้นตอนวิธีดำเนินการศึกษา

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ แบบสอบถาม (
หรือแบบประเมินความพึงพอใจ) 1 ฉบับ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.ออกแบบสอบถาม เรื่อง โดยขอคำแนะนำจาก
การกวดวิชาของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายคุณครู นายประทีป ค้ายาดี โดยเตรียมร่างข้อคำถาม
มีลักษณะเป็นข้อคำถามจำนวน 12 ข้อ เป็นแบบ
เลือกตอบ คือ
เลือกตอบตามหัวข้อที่แต่ละข้อกำหนดไว้ โดยตอบตามความเป็นจริง
การพิจารณาค่าเฉลี่ย
จะใช้เกณฑ์ดังนี้
ค่าเฉลี่ย 4.51 – 5.00 หมายถึง เลือกมากที่สุด
ค่าเฉลี่ย
3.51 – 4.50 หมายถึง เลือกมาก
ค่าเฉลี่ย
2.51 – 3.50 หมายถึง เลือกปานกลาง
ค่าเฉลี่ย
1.51 – 2.50 หมายถึง เลือกน้อย
ค่าเฉลี่ย
1.00 – 1.50 หมายถึง เลือกน้อยที่สุด
2.สร้างแบบสอบถาม เรื่อง การขับขี่สวมหมวกกันน๊อค
โดยขอคำแนะนำจากคุณครูประทีป ค้ายาดี จากนั้นนำมาปรับปรุงแก้ไข
แล้วนำไปตรวจสอบความเหมาะสม
3.นำแบบสอบถามเรื่อง การขับขี่สวมหมวกกันน็อค ที่แก้ไข
ปรับปรุงแล้วให้กลุ่มตัวอย่างประเมิน หลังจากนั้นนำผลที่ได้มาหาค่าเฉลี่ย
การเก็บรวบรวมข้อมูล
การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการโดยนำแบบสอบถามที่สร้างขึ้นให้นักเรียนกลุ่มตัวอย่างตอบ
จำนวน 100 คน และเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักเรียน ที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง
โดยผู้ศึกษาทั้ง 5 คน
ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตอนเอง
การวิเคราะห์ข้อมูล
ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้ศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลดังนี้
1.
นำแบบสอบถามทั้งหมดที่ตอบโดยนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง
มาหาค่าคะแนนรวม
2.
นำผลรวมมาคิดค่าร้อยละ
สถิติที่ใช้ในการศึกษา
สถิติที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ การหาค่าเฉลี่ยคิดเป็น ร้อยละ
คำถาม
|
มาก
|
ปานกลาง
|
น้อย
|
น้อยที่สุด
|
รวม
|
1.พอใจต่อการปฏิบัติกฎจราจร
|
25
|
30
|
25
|
20
|
100
|
2.การสวมหมวกนิรภัยสามารถป้องกันอันตรายได้
|
15
|
30
|
30
|
25
|
100
|
3.สร้างจิตสำนึกให้ตนเอง
|
50
|
25
|
25
|
-
|
100
|
4.สร้างความเคยชิน
|
-
|
50
|
25
|
25
|
100
|
5.การสวมหมวกนิรภัยมีผลต่อการขับขี่
|
50
|
40
|
10
|
-
|
100
|
6.ราคาของหมวกนิรภัยมีผลกระทบต่อการซื้อมาใส่
|
20
|
30
|
10
|
40
|
100
|
7.หมวกนิรภัยป้องกันแสงแดดและฝุ่นควันได้
|
60
|
30
|
10
|
-
|
100
|
8.มีสมาธิในการขับขี่
|
20
|
60
|
30
|
-
|
100
|
9.เห็นด้วยในการรณรงค์ให้สวมหมวกนิรภัย
|
80
|
10
|
10
|
-
|
100
|
10.รู้สึกปลอดภัยขึ้น
|
90
|
10
|
-
|
-
|
100
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น